วันจันทร์ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2556

Health problems

 Health problems
 
 
1.I have a backache. ฉันปวดหลัง
 
2.It gives me a cold rain. ฝนตกเลยทำให้ฉ้ันเป็นหวัด
 
3.I do cough with phlegm. ฉันมีเสมหะเลยไอ
 
4.I put an anchor at Nashville's Montauk earache. ฉันใส่สมอล์ทอกล์เลยปวดหู
 
5.I do not go to school because they have a high fever. ฉันไม่ได้ไปเรียนเพราะมีไข้หวัดสูง
 
6.I have the flu for several weeks now. ฉันเป็นไข้หวัดใหญ่มาหลายสัปดาห์นี้
 
7.My headache is migraine. ฉันปวดหัวเพราะเป็นไมเกรน
 
8.I sang a lot of sore throat. ฉันร้องเพลงเยอะเลยเจ็บคอ
 
9.My stomachache was eating Unknown on time. ฉันปวดท้องเป็นกินข้าวไม่ตรงเวลา
 
10.I eat solids until toothache. ฉันกินของแข็งจนปวดฟัน
 
 
 
 

วันศุกร์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2556

Grammar


1. Noun (คำนาม) ใช้เรียก ชื่อคน สัตว์ สิ่งของ สถานที่ แม้คำกิริยาอาการ ที่ขึ้นต้นด้วย การ และ ความ ก็เป็นคำนามเช่นกัน

2. Pronoun (
คำสรรพนาม) ใช้เรียกแทนคำนาม จะได้ไม่ต้องเอ่ยนามนั้นซ้ำอีก เช่น He, She, It

3. Adjective (
คำคุณศัพท์,คุณนาม,คุณลักษณะ) คำขยายนาม ใช้ ขยาย Noun กับ Pronoun เพื่อบรรยายให้เห็นลักษณะของ Noun กับ Pronoun ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยการบอกลักษณะ บอกปริมาณ และบอกจำนวน เป็นต้น เช่น
              สูง,ต่ำ,ยาว,สั้น                                  บอกลักษณะทางกายภาพ
              ดำ,ขาว,เขียว,เหลือง,แสด,แดง            เป็นการบอกสี
              โง่,ฉลาด                                           บอกลักษณะด้านจิตใจ
                          การใช้ Adjective
                             - อยู่หน้า noun เช่น good man.
                             - อยู่หลัง Verb to be เช่น He is good.

4. Verb (
คำกริยา) ใช้พร้อมกับ  Tenses (เวลา) ใช้แสดงกริยาอาการต่างๆ  บ่งบอกให้รู้ว่าประธานทำอะไร 
    (Verb มี 3 ช่อง แต่ละช่องจะบอกเวลาเป็น อดีต ปัจจุบัน และ อนาคต)

5. Adverb (
คำวิเศษณ์ หรือ คำขยายกริยา) คำขยายกริยา เพื่อเพิ่มความหมายให้กับคำกริยาที่ถูกขยาย บอกให้รู้ว่าประธานทำอย่างไร เมื่อไร ที่ไหน  (ส่วนมาก Adverb จะลงท้ายด้วย -ly)

6. Preposition (
คำบุพบท) ใช้เชื่อมระหว่างคำ เพื่อบอกเวลา สถานที่ และทิศทาง ทำให้ประโยคสมบูรณ์ เช่น in, on, at  ตัวอย่าง She stay in her hours.

7. Conjunction (
คำสันธาน) ใช้เชื่อมประโยค มีทั้งแบบคล้อยตาม ขัดแย้ง และเป็นเหตุเป็นผล เช่น and, or, but  ตัวอย่าง She and I are students.

8. Interjection (
คำอุทาน) ใช้แสดงความรู้สึกหรืออารมณ์ต่างๆ เช่น Well, Wow, Oh 

ข้อควรจำ
1. การใช้ Pronoun กับ Noun 
ถ้าใช้ Pronoun แล้ว Noun ไม่ต้องใช้ เพราะ Pronoun มีสิทธิทุกอย่างเหมือน Noun

2. เปรียบเทียบภาษาไทยกับภาษาอังกฤษ
 ภาษาไทย Adjective เรียงหลัง Noun เช่น บ้านสีเขียว
 ภาษาอังกฤษ Adjective เรียงหน้า Noun เช่น Green House.

 Verb
ภาษาไทย ไม่มีการแบ่งช่อง ใช้คำอื่นบอกเวลา
 Verb ภาษาอังกฤษ มี 3 ช่อง 
                 ช่อง 1. Present (ปัจจุบัน) : eat 
                 ช่อง 2. Past (อดีต)  : ate
                 ช่อง 3. Past Participle : eaten  
                          - การใช้เป็น Verb 
                            ตามหลัง Verb to be และ ตามหลัง Verb to have
                          - การใ้ช้เป็น Adjective ก็ได้ เช่น Used car
           Future (อนาคต) ใช้ will หรือ Shall

วันศุกร์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2556

Trip
DAY1
     -8.00 welcome , tourist , with something , Hello! , and distribute a souvenir is friendship show.   
     -8.00 ต้อนรับ นักท่องเที่ยว ด้วยการ สวัสดี และแจกของที่ระลึกเป็นการแสดงไมตรีจิตร
     -9.00 take a tourist goes to eat the food shop follows to order , because , ordinary menu in our country , be at breathtaking of tourist foreign gang.
     -9.00 พานักท่องเที่ยวไปกินร้านอาหารตามสั่ง เพราะเมนูธรรมดาในประเทศเรา เป็นที่น่าตกใจของพวกนักท่องเที่ยวต่างชาติ
     -10.00 take a tourist , go to tout for order/business in a city.
     -10.00 พานักท่องเที่ยว ไปเดินตลาดในเมือง
     -13.00 take a tourist has a meal a shop s in the market.
     -13.00 พานักท่องเที่ยวทานอาหารร้านในตลาด
     -15.00 guide a ratchaburi museum.
     -15.00 พาเที่ยวพิพิธภัณฑ์ ราชบุรี
     -18.00 induce pig frying pan shop.
     -18.00 พาไปร้านหมูกระทะ
     -20.00 feed the elephant that pig frying pan shop.
     -20.00 ให้อาหารช้างที่ร้านหมูกระทะ
     -23.00 take go to temple to practise Buddhist teaching the vegetables pays by instalments for do to eat karma religion way in the the next day.
     -23.00 พาเข้าวัดผักผ่อนเพื่อทำกินกรรมทางศาสนาในวันรุ่งขึ้น
DAY2
     -5.00 wake up.
     -5.00 ตื่นนอน
     -5.20 walk behind a monk on morning.
     -5.20 เดินตามพระในช่วงเช้า
     -7.00 get back to go to temple to practise Buddhist teaching cook morning give a monk.
     -7.00 กลับเข้าวัดเตรียมอาหารเช้าให้พระ
     -8.00 a monk has finished have to continue a monk.
     -8.00 พระทานเสร็จก็ทานต่อจากพระ
     -9.00 walk see a temple for concentrate.
     -9.00 เดินดูวัดเพื่อทำสมาธิ
     -12.00 have a meal midday continue a monk.
     -12.00 ทานอาหารเที่ยงต่อจากพระ
     -15.00 depart a temple goes to souvenir shop.
     -15.00 ออกจากวัดไปร้านของที่ระลึก
     -17.00 take a tourist sings Thai.
     -17.00 พานักท่องเที่ยวร้องเพลงไทย
     -18.00 send a tourist gets back to the hometown , and a donkey.
     -18.00 ส่งนักท่องเที่ยวกลับบ้านเกิด และลำลา
(the tourism this time use money just a person vacates 500 Bath be full the merit can is gratified Thai culture goes to full.)
(การท่องเที่ยวครั้งนี้ใช้เงินเพียงคนละ 500บาท อิ่มบุญอิ่มใจได้วัฒนธรรมไทยไปเต็มๆ )
END
    

วันพฤหัสบดีที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

Guess Who!


 
                                  
                            - I am 21 years old and I'm certain height and large.
                            - I have short black hair.
                            - I'm friendly and funny and vocally and entertainment.
                            - I'm interested in the game and society.

วันพุธที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

My Interested

 

     วิชาภาษาอังกฤษ นายเอกราช ศรีแสง
     รหัสนักศึกษา 2561051542310 BIT56

     The thing that me takes an interest be game and cartoon. I like to play game because The that be the thing that me thinks me can good and I have fun it. Kill time at the same time. Game that me likes to play be game racing car

 

     Example game Need for speed shift 2.



   The cartoon that me takes an interest be funny cartoon

     

     Example cartoon Keroro.

      Game and the cartoon be only the absurdity in the sight someone. But if 
" important imagination more than the thought " I am that  it is something the name of a style of the Buddha image sees stare in the corner that the other doesn't see to are like us.